วันพฤหัสบดีที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2551

Crossword

กิจกรรมที่ทำให้เวลาว่างของท่านมีประโยชน์ !!!!! สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองแน่ หรือต้องการทำให้เวลาว่างอันน่าเบื่อให้มีประโยชน์ละก้อ ลองมาเล่น Crossword ของผมดูน่ะครับ มาเริ่มกันเลย

The season of the tree

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ อ.เกยูน ใช้สอบในวิชาภาษาอังกฤษ
There was a man who have 3 sons. One day he send the first son to see the tree in the windther. He send the second son to see the tree in the tree sprin. He send the third son to see the tree in the tree summer. After that he ask all of his son about the same tree but in the different season. All for them say different. So his father expain to them that "If you want to know about something. You should see it in every thing. Just like the tree. We can see the different kind of it."
.....End.....

Two Monks

เรื่องนี้เป็นงานวิชาภาษาอังกฤษครับ
There were two monks. They are walking on their way. At the river they see the girl with the nice shirt and she don't want to make her cloth wet. But she want to cross the river. Then the first monk go to help her with out thinking. He carry the girl on his back and cross the river then they go on their way. After that the second monk say "Why you do that. Why you carry the girl on your back. Why you don't follow to monk's rules." So the first monk say "I leave her on the another side of the river one hour ago. Why you still carry it."

....END...

นิราศนรินทร์

งานชิ้นนี้เป็นงานของวิชา ภาษาไทย

โคลงบทที่ 2

กรุงศรีอยุธยาล่มสลายไปจากการเสียกรุง แต่ก็มีเมืองล่องลอยมาจากสวรรค์อันมีพระที่นั่งสถูปแก้วอันสวยงาม ด้วยบุญบารมีที่สั่งสมของพระเจ้าแผ่นดินก็ได้ทำนุบำรุงศาสนาให้เจริญรุ่งเรือง เปิดทางให้บ้านเมืองไปสู่ความดีงามและยังฟื้นเมืองให้ตื่นจากการหลับใหลหลังจากการเสียกรุง

โคลงบทที่ 3
ความรุ่งเรืองของศาสนานั้นมีมากไปทั่วยิ่งกว่าแสงอาทิตย์ ผู้คนได้รับพระธรรมจากการฟังธรรมอยู่เป็นประจำ เจดีย์มากมายได้ถูกสร้างขึ้นสูงตระหง่านฟ้ายอดเจดีย์สวยงามยิ่งกว่าแสงนพเก้า เสมือนเป็นหลักแห่งโลกและเป็นที่มหัศจรรย์แห่งสรวงสวรรค์

โคลงบทที่ 4

โบสถ์ วิหาร ระเบียง ธรรมาสน์และศาลาต่างๆนั้น กว้างใหญ่ขยายไปถึงสวรรค์ หอพระไตรปิฎก เสียงระฆังในหอระฆังยามพลบค่ำ และแสงตะเกียงจากโคมแก้วอันมากมายนั้นสามารถทำให้แสงจันทร์สว่างน้อยลง

โคลงบทที่ 8

เมื่อจำต้องจากนางอันเป็นที่รักไปด้วยความอาลัยเหมือนกับต้องปลิดหัวใจของตนออกไปกับนาง ถ้าหากว่าดวงใจสามารถแบ่งออกได้ก็จะผ่าออกเป็นสองซีก ซีกหนึ่งจะเก็บไว้กับตนเอง แต่อีกซีกหนึ่งจะมองให้นางรักษาไว้

โคลงบทที่ 10

จะฝากนางไว้กับฟากฟ้าหรือผืนดินดี เพราะกลัวว่าพระเจ้าแผ่นดินจะมาลอบเชยชมนาง จะฝากนางไว้กับสายลมช่วยพัดพานางบินหนีไปบนฟ้า แต่ก็กลัวลมพัดทำให้ผิวนางมีรอยช้ำ

โคลงบทที่ 11

จะฝากนางไว้กับใครดี จะฝากนางไว้กับนางอุมาหรือชายาพระนารายณ์ ก็เกรงว่าจะเข้าใกล้ชิดนาง พี่คิดจนสามโลกจะล่วงลับไปก็คิดได้ว่าจะฝากนางไว้ในใจตนเองดีกว่าฝากไว้กับคนอื่น

โคลงบทที่ 22

เดินทางมาโดยทางน้ำล่วงหน้ามาจนถึงตำบลบางยี่เรือ ขอให้เรือแผงช่วยพานางมาด้วย แต่บางยี่เรือไม่รับคำขอ น้ำตาพี่จึงไหลนอง

โคลงบทที่ 37

เดินทางต่อไปจนถึงตำบลบางพ่อ ซึ่งน้ำแห้งเหือดจนมองไม่เห็น มีแต่บ่อน้ำตาที่คงเต็มไปด้วยเลือด พี่ก็อยากให้นางผู้มีความงาม5ประการมาซับน้ำตาพี่แล้วค่อยจากไป

โคลงบทที่ 41

เห็นต้นจากแตกกิ่งก้านสลับกับต้นระกำ ทำให้ชอกช้ำระกำใจ ว่าเคยเป็นเวรกรรมที่คงเคยทำกันมาทำให้เราต้องจากกันไกล ขอให้ครั้งหน้าเราคงได้อยู่ด้วยกัน

โคลงบทที่ 45

เป็นการเปรียบเทียบของหน้านางกับดวงจันทร์ แต่ดวงจันทร์มีรอยตำหนิเป็นรอยกระต่าย แต่ใบหน้าของน้องนางสวยงามไม่มีตำหนิ ไม่มีสิ่งใดมาเปรียบเทียบ เพราะหน้าของน้องงามกว่าดวงจันทร์ ยิ่งมองยิ่งงามกว่านางฟ้า

โคลงบทที่ 118 เดินทางมาถึงตระนาวศรีความโศกเศร้าก็กระหน่ำซ้ำเติมเข้ามา ความโศกเศร้าที่จากนางาไม่ว่าจะเดินผ่านทุ่งนา ป่า ท้องน้ำ หรือสถานที่ใดไม่ว่าจะเป็นทางบกหรือทางน้ำ ก็สามารถสังความไปถึงน้ำได้ตลอด

โคลงบทที่ 122 ไม่ว่าจะเป็นพระอินทร์ ผู้มีพันตา ผู้เฝ้าดูระวังโลก พระพรหมผู้มีสี่หน้าแปดหูที่คอยฟังสรรพเสียงใดๆ หรือจะเป็นพระนารายณ์ที่บรรทมอยู่หลังนาค เมื่อเราทั้งสองต้องพลัดพรากจากกัน เราสองคร่ำครวญอยู่ซ้ำซากแต่เทพพระองค์ก็ไม่สนใจ

อยู่กับก๋ง

เรื่องนี้เป็นงานของวิชาภาษาไทยครับ
บ้านสวน พ.ศ.2548 หยก ชายชราวัย 60 ปี ประสบความสำเร็จในอาชีพนักเขียนของตน มีผลงานตีพิมพ์มากมาย ทุกวันนี้เขาอาศัยอยู่กับครอบครัวใหญ่ มีลูกหลานมากมาย เมื่อมองภาพครอบครัวที่อบอุ่นอย่างทุกวันนี้ หยกมักจะย้อนคิดถึงวัยเด็กที่มีเพียงเขาและ ก๋ง ทุกครั้งก๋ง ชายชราชาวจีนที่อพยพเข้ามาประเทศไทย ตั้งแต่สมัยก่อนสงครามโลก ก๋งเป็นช่างฝีมือ ประกอบอาชีพหลักคืองานซ่อมเซรามิค อันเป็นวิชาที่ติดตัวมาจากเมืองจีน ความคิดอ่านที่กว้างไกลและความเมตตาของก๋ง ทำให้ก๋งได้รับการนับหน้าถือตาจากผู้คนมากมายในชุมชนห้องแถวที่อาศัยอยู่ ซึ่งผลบุญนี้ได้ตกมาถึง หยก เด็กกำพร้าที่ก๋งได้อุปการะไว้ หยกเติบโตอย่างอบอุ่นภายใต้การเลี้ยงดูของก๋ง แต่เขาก็ยังรู้สึกถึงความไม่สมบูรณ์ของตัวเอง หยกมักสงสัยว่าทำไมตนจึงไม่มีพ่อแม่เหมือนคนอื่น จนวันหนึ่งหยกได้พบเห็นเด็กกำพร้าที่ถูกเอามาวางทิ้งไว้ หยกจึงได้เข้าใจว่าโลกนี้ยังมีเด็กโชคร้ายอีกหลายคนนัก และเพื่อนเขาบางคนเช่น ป้อม ลูกชายของ คุณนายทองห่อ กับคุณปลัด ที่แม้จะมีพ่อแม่พร้อมหน้า หากหยกได้รู้ความจริงว่าภายใต้รอยยิ้มนั้น มีแต่การปั้นหน้าใส่กัน หยกจึงเข้าใจว่า แท้จริงแล้วการที่เขามีก๋งคอยให้ความรักกับเขาอย่างแท้จริงต่างหากที่ทำให้เขาเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์แล้ว ชุมชนห้องแถวที่ก๋งและหยกอาศัยอยู่เป็นแหล่งรวมคนจีนมากหน้า เพื่อนบ้านที่สนิทกันอยู่ก็คือ เง็กจู ซึ่งเป็นที่ยึดติดกับธรรมเนียมจีนอย่างเหนียวแน่น และไม่ค่อยยอมรับความเปลี่ยนแปลง เง็กจูมีลูกชายคือ เพ้ง และลูกสาวคือ เกียว หลายครั้งที่เง็กจูมีปัญหากับลูก ก๋งจะเป็นคนคอยแก้ปัญหาให้ทุกครั้ง ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เกียวแหกประเพณีเดิมของผู้หญิงจีน หนีไปเรียนภาคค่ำ หรือตอนที่เพ้งรับ นวล ภรรยาคนไทยเข้าบ้าน จนเง็กจูขู่จะฆ่าตัวตาย ก๋งเป็นคนชี้ทางสว่างให้เง็กจูเห็นและยอมปรับทัศนคติเพื่ออยู่ร่วมกับลูกหลานในโลกปัจจุบันให้ได้ หรือแม้แต่คนไทยบางคนที่มาเช่าบ้านอยู่ในชุมชนจีนนี้ ก๋งก็เป็นคนจีนคนเดียวที่ยื่นมือให้ความช่วยเหลือ ขณะที่คนจีนคนอื่นๆ ตั้งแง่รังเกียจ ไม่ว่าจะเป็น สมพร หญิงสาวผู้โชคร้ายที่หนีออกมาจากซ่องโสเภณี แฉล้ม และไพศาล คู่ผัวเมียที่ทะเยอทะยานในวัตถุจนตกเป็นทาสการพนัน และหาญ กับจำเรียง หนุ่มสาวที่วิวาห์เหาะมาจากกรุงเทพฯ ชุมชนห้องแถว พ.ศ.2548 หยก กลับไปเยี่ยมชุมชนห้องแถวอีกครั้ง เขาเพ่งมองภาพถ่ายขาวดำของงานวันแซยิด ในห้องแถวหลังเก่าของตัวเอง เรื่องราวเก่าๆ ยังคงฉายชัดอยู่ในความทรงจำของเขา แม้ว่าวันนี้ชุมชนห้องแถวจะเปลี่ยนแปลงและเจริญขึ้นมากกว่าวันก่อนแล้วก็ตาม หน้าห้องแถวห้องหนึ่ง เด็กชายคนหนึ่งนอนอ่านหนังสือให้อากงของตัวเองฟัง หยกนึกถึงภาพตัวเองกับก๋งในวัยเด็ก และยิ้มออกมาเมื่อเห็นชื่อหนังสือ “อยู่กับก๋ง” บนหน้าปก หยกเหม่อมองท้องฟ้าราวกับจะมองหาก๋ง อยากให้ก๋งได้เห็นว่าวันนี้ เขาได้ทำตามสัญญาที่เคยให้ไว้กับก๋งแล้ว

มาตาปิตุคุณ

เรื่องนี้คืองานของวิชาภาษาไทย
ข้าขอนบชนกคุณ
ชนนีเป็นเค้ามูล ผู้กอบนุกูลพูน
พดุงจวบเจริญวัย ฟูมฟักทะนุถนอม
บบำราศนิราไกล แสนยากเท่าไรๆ
บคิดยากลำบากกาย ตรากทนระคนทุกข์
ถนอมเลี้ยงฤดูวาย ปกป้องซึ่งอันตราย
จนได้รอดเป็นกายา เปรียบหนักชนกคุณ
ชนนีคือภูผา ใหญ่พื้นพสุธรา
ก็บเทียบบเทียมทัน เหลือที่จะแทนทด
จะสนองคุณานันต์ แท้บูชไนยอัน
อุดมเลิศประเสริฐคุณ
ถอดความ : กล่าวนอบน้อมพระคุณของบิดามารดา ผู้ได้เกื้อกูลมาตั้งแต่เล็กจนเติบโต คอยเฝ้าระวังรักษาประคับประคองดูแลอยู่ไม่ยอมห่าง แม้จะ ลำบากเท่าไรก็อดทนได้ เลี้ยงลูกอย่างทะนุถนอม ปกป้องอันตราย จนรอดพ้นอันตราย เติบใหญ่ เป็นตัวเป็นตน เปรียบประคุณของบิดามารดายิ่งกว่าภูเขา หรือแผ่นดิน สุดที่จะทดแทนพระคุณ มากล้นนี้ได้ ด้วยการบูชาอันวิเศษสมบูรณ์เลิศล้ำ

Risking

เรื่องนี้เป็นนิทานในวิชาภาษาอังกฤษครับ
There were two seed of plant. They're thinking about the future. The first seed wants to grow up and grow up so he grow. The second seed afriad to every thing. He thinks every thing are danger for him so he want. Until the time has come. One hen come and find the food to eat. She dug in the soild and find the seed of plant near the tree. It is the second seed. Then the hen eat it.

...END...

Note Book

อยากได้ Note Book สักเครื่องจังเลย T-T พ่อไม่ยอมซื่อให้ซะที อิจฉาเพื่อนๆที่มี Note Book ง่า.......

สมุดหน้าเหลือง !!!!!!!!!!!!!!!!

แย่แล้วครับเพื่อนๆ !!! จู่ๆก็มีกำหนดส่งสมุดเล่มเหลืองที่เขียนเกี่ยวกับ หนังสือที่อ่าน การออกกำลังกาย และการทำความดี อูยๆแย่เลยๆ ไหนจะสอบอีกไหนจะต้องเขียนสมุดเล่มเหลืองอีก ไหนจะการบ้านอีก T-T แล้วเพื่อนๆล่ะทำงานกันเสร็จหรือยัง...............................!